เจาะลึกวัตถุดิบพลาสติก สู่การผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์

18

พลาสติก วัสดุอเนกประสงค์ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ภาชนะบรรจุอาหาร เครื่องใช้ในบ้าน ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่เคยสงสัยไหมว่า พลาสติกที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ผลิตมาจากอะไร ? บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับวัตถุดิบพลาสติกกัน

ประเภทของวัตถุดิบพลาสติก

วัตถุดิบพลาสติกสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะแบ่งตามโครงสร้างโมเลกุลและพฤติกรรมเมื่อได้รับความร้อน ดังนี้

  1. เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastics)

เทอร์โมพลาสติกเป็นพลาสติกที่สามารถหลอมละลายและขึ้นรูปใหม่ได้เมื่อได้รับความร้อน ทำให้สามารถรีไซเคิลได้ง่าย ตัวอย่างของเทอร์โมพลาสติกที่พบบ่อย ได้แก่

  • พอลิเอทิลีน (Polyethylene, PE)
    • ความหนาแน่นต่ำ (LDPE): ใช้ทำถุงพลาสติก ฟิล์มห่ออาหาร
    • ความหนาแน่นสูง (HDPE): ใช้ทำขวดนม ขวดแชมพู ถังน้ำ
  • พอลิโพรพิลีน (Polypropylene, PP)
    • ใช้ทำบรรจุภัณฑ์อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ เส้นใยสิ่งทอ
  • พอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl Chloride, PVC)
    • ใช้ทำท่อประปา วัสดุก่อสร้าง ฉนวนหุ้มสายไฟ
  • พอลิสไตรีน (Polystyrene, PS)
    • ใช้ทำบรรจุภัณฑ์อาหาร ของเล่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene Terephthalate, PET)
    • ใช้ทำขวดน้ำดื่ม เส้นใยสิ่งทอ ฟิล์มบรรจุภัณฑ์
  1. เทอร์โมเซ็ตติ้งพลาสติก (Thermosetting Plastics)

เทอร์โมเซ็ตติ้งพลาสติกเป็นพลาสติกที่เมื่อขึ้นรูปแล้วจะไม่สามารถหลอมละลายและขึ้นรูปใหม่ได้ ทำให้มีความแข็งแรงและทนทานสูง แต่รีไซเคิลได้ยาก ตัวอย่าง ได้แก่

  • อีพ็อกซี่ (Epoxy)
    • ใช้เป็นกาวและวัสดุเคลือบผิว ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและยานยนต์
  • ฟีนอลิก (Phenolic)
    • ใช้ทำอุปกรณ์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ แผ่นวงจรพิมพ์
  • พอลียูรีเทน (Polyurethane, PU)
    • ใช้ทำโฟมฉนวน พื้นรองเท้า วัสดุหุ้มเบาะ
  • เมลามีน (Melamine)
    • ใช้ทำจาน ชาม และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร

คุณสมบัติของวัตถุดิบพลาสติก

วัตถุดิบพลาสติกแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย คุณสมบัติที่สำคัญของพลาสติก ได้แก่

  1. ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น
    • พลาสติกบางชนิด เช่น HDPE และ PP มีความแข็งแรงและทนทานสูง
    • พลาสติกอื่น เช่น LDPE มีความยืดหยุ่นมากกว่า
  2. ความทนทานต่อสารเคมี
    • PVC และ PTFE (เทฟลอน) มีความทนทานต่อสารเคมีสูง
  3. ความทนความร้อน
    • เทอร์โมเซ็ตติ้งพลาสติกมักทนความร้อนได้ดีกว่าเทอร์โมพลาสติก
    • PEEK และ PPS เป็นเทอร์โมพลาสติกที่ทนความร้อนสูง
  4. ความโปร่งแสง
    • PMMA (อะคริลิก) และ PC (พอลิคาร์บอเนต) มีความโปร่งใสสูง
  5. ความสามารถในการขึ้นรูป
    • เทอร์โมพลาสติกสามารถขึ้นรูปได้ง่ายกว่าเทอร์โมเซ็ตติ้งพลาสติก
  6. น้ำหนักเบา
    • พลาสติกโดยทั่วไปมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่นๆ เช่น โลหะ หรือแก้ว
  7. ความเป็นฉนวนไฟฟ้า
    • พลาสติกส่วนใหญ่เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี ยกเว้นพลาสติกนำไฟฟ้าบางชนิด
  8. การทนต่อแรงกระแทก
    • ABS และ PC มีความทนทานต่อแรงกระแทกสูง

วัตถุดิบพลาสติกมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและความสามารถในการขึ้นรูป ทำให้พลาสติกถูกนำไปใช้ในการผลิตสินค้ามากมาย