กรณีสาวรายหนึ่งไปร้องเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่าแม่ถูกรถกระบะโรงงานน้ำแข็ง เปิดประตูกระแทกรถมอเตอร์ไซค์ จนเป็นเหตุให้แม่ที่นั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์มาด้วย ล้มหัวกระแทกพื้นก่อนเสียชีวิต ฝั่งเจ้าของรถกระบะ และเจ้าของโรงงาน เป็นดาบตร. เยียวยาค่ารักษาและค่างานศพ แต่ภายหลังเงียบหายไปไม่พูดคุยเรื่องค่าเยียวยาที่ต้องสูญเสียคุณแม่อีก ด้านคนขับรถกระบะ ก็ติดต่อไม่ได้ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
รายการโหนกระแสวันที่ 28 พ.ย. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ นิว ลูกสาวผู้เสียชีวิต มาพร้อมพ่อ ซึ่งเป็นสามีผู้เสียชีวิต , เอกภพ เหลืองประเสริฐ เพจสายไหมต้องรอด , ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?
นิว : วันที่ 28 มิ.ย. นิวกำลังจะไปทำงาน คุณแม่ขอติดรถมาด้วยเพื่อมาออกที่ปากซอยบ้าน แม่จะมาที่เซเว่น ปากซอยลาดกระบัง 36 แล้วก็ออกมากัน วันนั้นออกมากัน 3 คน มีลูกชายนิวนั่งอยู่ข้างหน้า นิว แล้วก็คุณแม่ สามคนนั่งออกมากันมา พอออกไปถึงใกล้จุดเกิดเหตุ นิวเห็นแล้วว่ามีรถกระบะจอดอยู่ซ้ายมือ แต่เป็นลักษณะจอดเฉยๆ
เขาเพิ่งไปจอดมั้ย?
นิว : ณ วันที่เกิดเหตุ นิวไม่เห็นว่าเขาเพิ่งจอด แต่นิวเห็นเป็นรถที่จอดอยู่แล้วนิ่งๆ เราก็มาถูกต้องของเรา เขาไม่ได้เปิดไฟอะไร หรือแง้มประตูจะลงมา พอนิวเห็นรถจอดเฉยๆ นิวก็ขี่รถต่อมาอีก พอถึงจังหวะที่เป็นตรงประตูเขาพอดี เป็นกลางรถมอเตอร์ไซค์นิวพอดี เขาก็เปิดมาแล้วกระแทกรถนิวล้มลงไป
เขาเปิดประตูกระแทกปั้ง เราก็เสียหลักทันที?
นิว : รถมอเตอร์ไซค์ด้านข้างก็คือแตกเลยค่ะ
ตอนนั้นลูกเป็นยังไงบ้าง?
นิว : พอล้มหนูก็ตกใจ วิ่งไปคว้าเขาก่อน เพราะเขาเป็นเด็กค่ะ เห็นว่ามีรอยถลอก ถ้าในคลิปมีน้องนักเรียน เขาหยุดแล้วเดินมาเหมือนมาช่วยรับเด็กไป แล้วหนูก็นึกขึ้นได้ว่าแม่มาด้วย แต่ภาพที่เห็นคือแม่นอนหงาย ลืมตาค้าง มีเลือดไหลออกมาจากด้านหลังศีรษะค่ะ
จากนั้นมีคนนำคุณแม่ส่งรพ.?
นิว : มีรถกู้ภัย รถรพ. มารับ ก็ไปส่งที่รพ.ลาดกระบัง เพราะเป็นรพ.ตามสิทธิ์บัตรทองของคุณแม่ค่ะ พอไปถึงรพ. เขาบอกว่าแผลที่ด้านหลังศีรษะมันสาหัสมาก เย็บไม่ได้เอาสวย เย็บเพื่อหยุดเลือดก่อน ศีรษะถูกกระแทกอย่างแรงน่าจะมีความเสียหายในนี้ แต่ที่รพ.ไม่มีอุปกรณ์ในการสแกนสมองคุณแม่ได้ ต้องส่งไปสแกนสมองที่รพ.เอกชนอีกที่นึง ซึ่ง ณ วันนั้นเกิดความยากลำบากตั้งแต่ตอนนั้น ทุกอย่างตกหมดเลย ความดันตก หัวใจเต้นช้า ต้องให้ยากระตุ้นทุกอย่างเพื่อให้ทุกอย่างพร้อม เพื่อเอาคุณแม่ไปรพ.อีกที่เพื่อสแกนสมอง มันใช้เวลานานมากค่ะ เหตุเกิดตอนเช้า กระตุ้นคุณแม่จนได้ไปในช่วงเย็น ที่คุณแม่พร้อมแล้วหมอบอกว่าถ้าหัวใจหยุดเต้นกลางทาง ต้องย้อนกลับมาปั้มที่รพ.นะ เพราะปั้มบนรถไม่ได้ กระตุ้นทุกอย่างจนคุณแม่สามารถไปได้ แล้วพอไปสแกนสมองก็กลับมาที่รพ.ลาดกระบังอีกครั้งนึง
ทำไม?
นิว : เหมือนรพ.ลาดกระบังจะเป็นรพ.ที่รักษาค่ะ
ทั้งที่คนจับอาการหนักนะ?
นิว : ใช่ค่ะ พอสแกนสมองผลออกมา หมอบอกว่าผ่าไม่ได้แล้ว เพราะในสมองเลือดออกเป็นหย่อมๆ ทุกชั้นเลย แล้วมีกะโหลกแตกเข้าไปทิ่มในเนื้อสมอง ถ้าผ่ามีโอกาสเสียชีวิตขณะผ่า มีโอกาสรอดแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้ารอดก็เป็นผักไปเลย หมอบอกแบบนั้น ตอนนั้นกับพ่อ ก็คิดว่าแม่ต้องไม่กลับมาแล้วแน่ๆ พ่อทำใจไม่ได้ ก็บอกพยาบาลว่ากระตุ้นไปก่อน ถ้าความดันตกให้ยา ถ้าหัวใจหยุดเต้นให้ปั้ม ทำทุกอย่างเพื่อยื้อเขาไว้ก่อน เราทำอย่างนั้นจนหมอเรียกคุย นิวไปเจอหมอในวันที่ 29 คุณหมอก็บอกว่าทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์ ยื้อไปสุดท้ายแล้วไม่น่าจะรอด ก็เลยมานั่งคุยกับคุณพ่อว่าไม่รู้ตอนนี้แม่เขาเจ็บปวดทรมานมั้ย ที่เขานอนก็ขยับไม่ได้ พ่อก็เลยโอเค ตัดสินใจไปคุยกับหมอเพื่อให้หยุดยาในวันที่ 30 ช่วงบ่าย พอบอกว่าหลังจากนี้ไม่ต้องให้ยาแล้ว ถ้าอะไรตกก็ปล่อยให้คุณแม่เขาไป ณ วันที่ 30 ตอน 4 ทุ่มคุณแม่ก็เสียค่ะ
ถูกกระแทก 28 วันที่ 30 แม่เสียชีวิต ในช่วง 2 วัน ฝั่งโรงงานน้ำแข็งติดต่อมามั้ย?
นิว : รถเป็นของภรรยาเจ้าของโรงงาน ชื่อเป็นของภรรยา แต่รถเป็นของโรงน้ำแข็งค่ะ คนขับเป็นลูกจ้างโรงน้ำแข็งค่ะ
มีใครมาเสนอตัว หรือเข้ามาช่วยเหลือเยียวยามั้ย?
นิว : ก็คุณตร.ท่านนั้นแหละค่ะ ดาบตร.ที่เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็งค่ะ เขามาตั้งแต่เกิดเหตุ ในสถานที่เกิดเหตุที่ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายคุณแม่ เขาก็เข้ามาเลย บอกว่าเป็นเจ้าของนะ เข้ามาคุย มาดูแล วันสแกนสมองคุณแม่ พวกค่าใช้จ่ายต่างๆ เขาแอดไลน์มาก็มีการคุยกันตลอดว่ามีค่าอะไรบ้าง เขาก็เข้ามาช่วยซัปพอร์ตในช่วงตั้งแต่คุณแม่เกิดเหตุ จนงานศพของคุณแม่
เขาจ่ายให้หมด?
นิว : ใช้คำว่า 80 เปอร์เซ็นต์ดีกว่าค่ะ เขาไม่ได้จ่ายทั้งหมด มีที่เราจ่ายเอง
วันงานศพ เขาไปช่วยเหลืออะไรมั้ย?
นิว : งานจัดสองวันค่ะ ที่บ้านหนูเป็นคริสเตียน แม่เผาวันที่ 1 มีงานไว้อาลัยวันที่ 2 วันที่ 1 เขามางานเผาที่วัด แต่งานไว้อาลัย ที่คุยไว้ว่าถ้าจบงานจะขอคุยกับเขาหน่อยนะเรื่องการเยียวยา แต่เขาส่งไลน์มาให้หนูเป็นที่ตรวจเอทีเค ว่าเขาเป็นโควิดมาไม่ได้ค่ะ
หลังจากแม่เสียชีวิตเขามีการเยียวยาเพิ่มมั้ย?
นิว : ไม่มีค่ะ แล้วเขาก็ไม่เคยพูดเสนอเรื่องการเยียวยาเลยค่ะ
ก่อนมีคลิปจากกล้องวงจรปิด เห็นว่าฝั่งคนขับรถกระบะที่เป็นลูกน้องดาบตร. บอกว่าเหตุการณ์เป็นอีกแบบ เขาให้เหตุผลว่ายังไง?
นิว : นิวทราบจากอัยการที่เขาได้รับสำนวนแล้ว แล้วเขาโทรมาคุย เขาบอกว่าฝ่ายคู่กรณีให้ปากคำว่านิวขับมาแล้วหลบรถคันที่มาในเลนสวนกันแล้วไปชนกับประตูของเขา คลิปนี้นิวได้มาก่อนที่ตร.จะเรียกเขาไปแล้ว คุณตร.ได้ก่อนนิว แต่ว่าตอนที่ตร.เรียกเขาไปสอบ เขาให้การปฏิเสธ ตอนนั้นตร.ไม่ได้ให้เขาดูคลิป พอเขาให้การเสร็จ ตร.ถึงให้เขาดูคลิปทีหลัง นิวไม่รู้ว่าสรุปแล้วเขายังไง แต่ตร.ที่รับผิดชอบคดีบอกว่าเขาให้การปฏิเสธ ฉะนั้นต้องไปสู้กันต่อในชั้นศาลค่ะ
ฝั่งคุณเอกมองยังไง?
เอก : ผมต้องถามพนักงานสอบสวน เมื่อเขาให้การปฏิเสธ และไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในคลิป ควรดำเนินคดีข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานด้วยนะครับ โดยพฤติกรรม น้องเขามีการสอบถามเจ้าหน้าที่ตร. หรืออัยการ บอกว่ารถคันนี้ มีการทำเรื่องโอนลอย จากเจ้าของเดิมมาเป็นชื่อคนขับรถนี้แทน เป็นพฤติกรรมเหมือนฉ้อฉลนะครับ ต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกที เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย ถ้าโรงน้ำแข็งทำพรบ.ทำประกันรถเอาไว้ มันยังพอเอาจากตรงนี้มาเยียวยา ชดเชยให้ผู้เสียหายเขาได้ แต่พอคุณไม่ได้ทำอย่างนั้น ยิ่งข้อเท็จจริงมีการไปทำโอนลอยทีหลัง หลังชนไปแล้ว เพื่อปัดความรับผิดชอบ อันนี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ขอว่าอย่าได้กระทำแบบนั้น
ไม่ได้รับแม้แต่บาทเดียว นอกจากเงินเยียวยาที่เขามาช่วยเบื้องต้นตอนแม่อยู่รพ.?
นิว : ใช่ค่ะ หลังจากแม่ตายไม่มีค่ะ ไม่มีแม้แต่การพูดถึงค่ะ
เอก : เงินเยียวยา การรักษาก็ต้องช่วยเขา ไม่ช่วยได้ยังไง ก็รถคุณไม่มีพรบ. เลย เวลาเกิดอุบัติเหตุเขาต้องเบิกจากพรบ.ก่อนอันแรก แต่คุณไม่ทำพรบ. คุณไม่รับผิดชอบต่อสังคม คุณถึงต้องมาจ่ายเขาตรงนี้ไงครับ
ตอนนั่งรถมอเตอร์ไซค์ใส่หมวกกันน็อกมั้ย?
นิว : นิวใส่ค่ะ แต่คุณแม่ไม่ได้ใส่ค่ะ
หลังจากคุณแม่เสียชีวิตแล้ว ดาบเขาติดต่อมาอีกมั้ย?
นิว : วันที่เสียชีวิตยังมีการคุยกันอยู่ค่ะ จนถึงพิธีศพนั่นแหละค่ะ จนงานไว้อาลัย ตอนแรกคิดว่าเขาจะมา เพราะหลังจบพิธีจะขอคุยกับเขาเรื่องการเยียวยา แต่พอใกล้ถึงวัน เขาส่งไลน์ ส่งรูปที่ตรวจเอทีเค ว่าเขาติดโควิด มาไม่ได้ ก็เลยยังไม่ได้คุยกันค่ะ
ในมุมของเราเอง มีการพูดคุยเรื่องพรบ. มันคือยังไง?
นิว : เบื้องต้นถ้าเขาบอกว่าเขาไม่มีเงินมาเยียวยา มารับผิดชอบ ตัวพรบ.ถ้าเขามีมันจะสามารถเข้ามาเยียวยาหนูและครอบครัวได้ แต่พรบ.ซึ่งเป็นสิ่งเบื้องต้น พื้นฐานที่ทุกคนต้องทำ แต่เขาไม่มี ประกันเขาจะมีหรือไม่ได้ก็ได้ แต่พรบ. ทุกคนต้องมี แต่เขาไม่มี
ได้มีโอกาสเรียกหรือขอค่าเยียวยาฝั่งดาบไปมั้ย?
นิว : มีค่ะ ที่หนูคุยกับเขา ต้องบอกว่าเขาไม่เคยเอ่ยปากเริ่มก่อนในเรื่องการเยียวยาเลย หนูจะเป็นคนนัดคุย เป็นคนยื่นข้อเสนอไป หนูพูดเลยว่าหนูรู้ว่าเขาอาจมองว่าเป็นตัวเลขที่มากไป แต่หนูเปิดประเด็นไปเพื่อให้เขาสื่อสารกับหนูในเรื่องนี้ หนูเรียกเขาไป 1 ล้านค่ะ หนูรู้ว่าเขาไม่มีพรบ. หนูคิดว่าถ้าเขามีพรบ. 5 แสน พรบ.จ่ายให้หนูอยู่แล้ว ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่จะตกลงกันยังไง
พอเรียกไป 1 ล้านเขาตอบกลับมาว่าไง?
นิว : เขาไม่ได้ตอบอะไรค่ะ และไม่มีการคุยกันต่อเรื่องนี้ค่ะ
มาทราบได้ไงว่าชื่อรถเปลี่ยนไปแล้ว?
นิว : หนูทราบจากอัยการค่ะว่ามีการโอนลอยรถคันนี้ มีการซื้อขายโอนลอยกับคนกระทำความผิด คนที่เปิดประตูค่ะ
ลูกน้องดาบตร. เปิดประตูมาโดนรถเรา แต่ตอนนี้ดาบตร.บอกว่าเขารถคันนี้ไปให้ลูกน้องแล้ว?
เอก : ลักษณะแบบนี้เป็นไปได้หรือไม่ ว่าเขาต้องการเบี่ยงเบนหรือฉ้อฉล ถ้ารถยังเป็นของโรงน้ำแข็งอยู่ โรงน้ำแข็งก็ต้องรับผิดชอบ ในฐานะที่ละเมิด ทำให้มีคนเสียชีวิต เขามีสิทธิ์ถูกฟ้องเพราะเป็นนายจ้างได้ แต่พอมีการโอนลอยรถไปแล้ว น่าจะเป็นเรื่องการปัดความรับผิดชอบหรือไม่
รถที่ไปจอด ตรงนั้นจอดได้มั้ย?
เอก : มันเป็นจุดอันตราย เป็นปากซอย ไม่ควรจอดอยู่แล้วครับ
ถ้ามีคนแย้งว่าผู้เสียหายไม่ได้ใส่หมวกกันน็อก?
ธนกฤต : ไม่เกี่ยวกันครับ การไม่สวมหมวกกันน็อกเป็นความผิดตามพรบ.จราจรทางบก ซึ่งตร.เขาก็ดำเนินคดี แต่ไม่เกี่ยวว่าไม่สวมหมวกกันน็อกแล้วขับรถมาชนแบบนี้จนเสียชีวิต มันอีกประเด็น มันคนละประเด็นกัน เหมือนกรณีขับรถชนคนเสียชีวิต ก็ไม่ได้พูดถึงมีใบขับขี่กับไม่มีใบขับขี่ ข้อหาถูกตั้งคือขับรถชนคนอื่น นี่คือตัวอย่าง เดี๋ยวจะให้ไปยื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรม สอบถามตร.ว่าคดีไปถึงไหน นี่เป็นเรื่องที่หนึ่งครับ
คุณมีพรบ.มั้ย?
นิว : มีค่ะ เขาเข้ามาช่วยในส่วนของรถหนูที่พึงได้ค่ะ คือถ้าเกิดรถชนแล้วหนูมีคู่กรณี พรบ.คู่กรณีต้องจ่ายให้หนูในกรณีที่เสียชีวิตค่ะ หนูไม่สามารถใช้ของตัวเองได้
ดาบตร. คู่กรณี อยู่ในสาย ตกลงตอนนี้มีการเจรจากันยังไงบ้าง?
ดาบตร. : ผมไม่ใช่เจ้าของโรงน้ำแข็งนะครับ ผมไม่ได้มีโรงน้ำแข็งเป็นของตัวเองครับ
แล้วเป็นรถฝั่งโรงงานมั้ย?
ดาบตร. : เป็นรถของแฟนผมเองครับ
แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับโรงน้ำแข็ง?
ดาบตร. : ที่น้องบอกว่าเป็นโรงน้ำแข็ง ทางเราไม่ใช่โรงน้ำแข็งนะครับ เป็นแค่วิ่งขายน้ำแข็งธรรมดา ไม่ใช่โรงงานครับ
คุณมีร้านแล้วเอาน้ำแข็งส่งออกกระจายไป?
ดาบตร. : ใช่ครับ ผมรับมาจากโรงงานแล้วแค่ผมกินส่วนต่าง ผมไม่ใช่โรงงานครับ
กรณีที่ชนไป ตอนนี้ดาบเยียวยาเบื้องต้นเรื่องการรักษา แล้วเงินเยียวยาที่แม่เขาเสียชีวิต ดาบมองยังไง?
ดาบตร. : (หัวเราะ) ผมงง (หัวเราะ) ที่คุณหนุ่มถาม มันยาวไป ผมงง
จะเยียวยายังไง แม่เขาเสียชีวิต?
ดาบตร. : เบื้องต้นมีช่วยเหลือเรื่องงานศพไปก่อน น่าจะอยู่ที่ 6 หมื่นกว่าบาทครับ รวมถึงค่ารักษา และทุกอย่าง ผมดำเนินการทั้งหมด งานศพ งานไว้อาลัย ส่วนนั้นทุกอย่ทางที่โอนไปให้
จะเยียวยาเพิ่มเติมมั้ย?
ดาบตร. : ที่เขาเรียก 1 ล้าน ผมไม่มีตังค์จ่ายขนาดนั้น ผมไม่ใช่โรงงาน แล้วจริงๆ แล้วถามว่าที่น้องเรียกมา ผมอึ้งนะ ไม่รู้จะต่อยังไง เพราะมันสูงมาก ผมเลยบอกว่าให้น้องลองคุยกับคนขับก่อนสิ ให้คุยกับคู่กรณีก่อนว่าเขาจะรับไปเท่าไหร่แล้วค่อยมาคุยกับผม แต่ก็เงียบๆ ไป แล้วอยู่ๆ มาน้องก็มาออกรายการ ซึ่งมีแค่ญาติของน้องเคยโทรมาคุยกับผมครั้งนึง เมื่อประมาณสักเดือนกว่าๆ จริงๆ แล้วบ้านน้องกับบ้านผมไม่ได้ห่างกันนะครับ ก็อยู่ใกล้ๆ กัน จริงๆ มีอะไรเขาน่าจะเข้ามาคุยกับผม ถามว่าผมพร้อมช่วยดูแลมั้ย ผมก็พร้อมนะครับ แต่ตัวเลขน่าจะซอฟต์ๆ ลงหน่อย ผมไม่ได้เป็นคนมีฐานะครับ
ผู้เสียหายบอกว่ารถคันนี้ไม่มีพรบ. ถ้ามีพรบ. เขาก็พอจะมาช่วยตรงนี้ได้?
ดาบตร. : อย่างที่น้องพูดก็ถูก แต่เอาง่ายๆ เราไม่ใช่คนมีฐานะ ถ้าคุยกันในทำนองว่าพอจะช่วยเหลือกันได้ ก็ไม่น่าจะยาก แต่ทางน้องเขาไม่คุยกับคู่กรณีก่อนว่าเขาซัปพอร์ตได้เท่าไหร่ แล้วที่เหลือมาคุยกับผม แต่น้องเขาพุ่งเป้ามาที่ผม เหมือนผมเป็นคู่กรณีโดยตรง
แต่รถเป็นชื่อภรรยาดาบ?
ดาบตร. : ถูกครับ แต่จริงๆ แล้วชื่อรถถูกต้อง แต่คู่กรณีที่ทำให้เกิดเรื่อง เขาก็ยังอยู่ ไมได้หลบหนีไปไหน ทำไมไม่ทำให้ถูกต้องก่อนล่ะครับ
มีการโอนลอยไปหาลูกน้องคุณจริงมั้ย?
ดาบตร. : ไม่ได้โอนครับ เป็นแค่สัญญาปากเปล่ากันว่า ช่วงโควิด ภาระผมเยอะ ผมไม่อยากจ่ายค่าแรง ค่าอะไร ผมก็ให้เขาเอาไปส่งเอง แล้วเอาไปขายทั้งแผงเอง โดยเอาเปอร์เซ็นต์ส่วนต่างมาให้ผม เพราะว่าผมจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าแรง ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่าย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายลงครับ ถามว่าโอนลอยมั้ย เป็นสัญญาปากเปล่า ไม่ได้โอนลอยอะไรทั้งสิ้น
แต่วันนี้ไปอยู่ในสำนวนอัยการ?
ดาบตร. : ผมก็ไม่ทราบ เพราะกรณีนี้ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวนหรือร้อยเวรทั้งสิ้นครับ
ผมว่าดาบน่าจะรู้ คุณเอกภพก็พูดมาคำนึงน่าสนใจว่าถ้าเกิดมีการพิสูจน์แล้วพบว่ามีการโอนหลังจากมีเหตุเกิดขึ้นแล้ว เดี๋ยวจะมีประเด็นเกิดขึ้นตามมา?
ดาบตร. : ผมยืนยันว่าไม่ได้ทำเรื่องโอนครับ
เอก : ที่เขาต้องไปไล่เบี้ยเอากับเจ้าของรถ เนื่องจากเจ้าของรถไม่ยอมทำพรบ. ปล่อยให้พรบ.ขาด วันนี้คุณแม่เขาเสียชีวิตทั้งคน ไม่ใช่ว่าเขาแขนหักนะครับ ถึงจะใช้คำว่าช่วยเหลือกันได้มั้ย แล้ววันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ มันผ่านมาหลายเดือนแล้วนะครับ ถึงแม้อยู่ในซอยเดียวกัน ก็ควรได้รับการเยียวยามาตั้งนานแล้วหรือเปล่าครับ
ดาบตร. : จริงๆ อยากคุยกับคุณเอก คุณเอกน่าจะมาถามข้อเท็จจริงจากทางผมบ้าง ผมไม่ได้หลบหนีหายไปไหนเลย ผมอยู่นี่ตลอดเวลา ผมไม่นึกว่าเรื่องนี้จะใหญ่โตขนาดนี้ด้วยซ้ำไป ผมบอกว่าลองคุยกับคู่กรณีก่อนมั้ย เผื่อเขาจะช่วยซัปพอร์ตได้เท่าไหร่ แล้วเราค่อยมาคุยกัน ไม่ใช่อยู่ๆ เงียบหายแล้วไปร้องรายการโหนกระแส ร้องรายการนั้น
ไม่ใช่นะครับ น้องเขาไปร้องเพจสายไหมต้องรอดครับ?
ดาบตร. : ครับๆ โทษทีครับ
ตอนนี้ประเด็นหลักมีสองสามประเด็น ประเด็นนึงที่ดาบพูดมา ที่บอกว่าให้เขาไปคุยกับคนขับรถของดาบ ผมว่าเขาเป็นคนสูญเสีย จริงๆ แล้วคนที่ชนเขาน่าจะติดต่อเขาไป หรือแม้กระทั่งทั้งดาบและภรรยา ควรติดต่อว่ามีอะไรให้ช่วยมากกว่านี้มั้ย?
ดาบตร. : ผมเคยคุยกับญาติเขาครับ ผมขอไม่เอ่ยนาม ผมคุยแล้ว จริงๆ คดีนี้ไม่ได้ล่าช้านะครับ อยู่ในชั้นศาลแล้วนะครับ
ดาบพอจะเยียวยายังไงให้เขาได้บ้าง คิดว่าไหวยังไง?
ดาบตร. : จริงๆ แล้วผมไม่ได้เป็นคนที่มีตังค์ สัก 2 แสน เดี๋ยวผมกู้สหกรณ์ให้เลยครับ
มันห่างไกลจากตัวพรบ.มากเลยนะ?
ดาบตร. : จริงๆ แล้วตามพรบ.ตั้งเป้า 5 แสน แต่อยู่ที่ว่าอายุผู้เสียชีวิต หน้าที่การงานด้วย หลายๆ อย่างครับ ไม่ใช่ว่าเขาต้องจ่ายทั้งหมด 5 แสนนะครับ
มุมน้องอาจไม่ได้คิดอย่างนั้น แม่เขาอายุ 58 ถ้าเป็นพ่อผม หรือพ่อผม ผมเรียกหนักกว่านี้หลายเท่าเลย?
ดาบตร.: ผมเข้าใจครับ ผมถึงบอกว่างั้นรอให้มันอยู่ในชั้นกฎหมายดีมั้ย ถ้าเถียงกันไปเถียงกันมามันไม่จบ ถ้าน้องมีธงเท่านั้น ผมมีตังค์แค่นี้ แล้วจะคุยกันยังไง จะเอาตังค์ที่ไหนเอามาให้ในส่วนที่เหลือที่ขาดล่ะครับ
เคยคุยแบบนี้มาสองครั้ง ลักษณะแบบนี้เลยคือไม่มี ทีนี้ผู้เสียหาย พอได้ยินคำนี้ เขาก็งง ว่าแล้วชีวิตเขาจะทำยังไงกันต่อไป?
ดาบตร. : อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดแล้วก็เยียวยากันไป
ผ่อนจ่ายได้มั้ยล่ะ ตัวเลขอาจสูงกว่านี้แต่ไปผ่อนจ่าย?
ดาบตร. : ก็ลองให้น้องมาคุยกันดีกว่า ผ่อนจ่าย หรือจ่ายเท่าไหร่ ตอนนี้ตั้งแต่โควิด ผมเป็นหนี้สินเยอะแยะมาก ลองมาคุยกันดู เอาง่ายๆ เราไม่ได้ทิ้ง ไม่ได้ปล่อยทิ้งเลย แต่คุยกันในฐานะที่ว่าพอจะไหวมั้ย ไหวเท่าไหร่ ไม่ใช่ตั้งเป้าล้านนึง ผมไม่ไหวครับ
พรุ่งนี้ไปไกล่เกลี่ยที่กระทรวงยุติธรรมพร้อมๆ กับน้องเลยมั้ย ให้คุณเอก และท่านธนกฤตเคลียร์ให้?
ดาบตร. : นัดวันอื่นได้มั้ยครับ ขอวันที่ผมสะดวกอีกที ให้คุณเอกเอาเบอร์ผมไป หรือโทรมาหาผม แล้วคุยกันดีกว่าครับ ถ้าไปพรุ่งนี้ผมไม่สะดวกครับ มันจะได้จบๆ แล้วหาว่าผมเป็นผู้มีอิทธิพล ผมว่าผมโดนกล่าวหาหนักเกินไป
เอก : เขากังวลไงพี่ดาบ เพราะพี่ดาบกับพนักงานสอบสวนอยู่โรงพักเดียวกัน เขาก็เกิดความกังวลได้
ดาบตร. : คุณเอกลองสอบถามร้อยเวรก็ได้นะครับ ตั้งแต่เกิดเหตุมา ผมเจอหน้าร้อยเวรแค่ครั้งเดียว ร้อยเวรขอสำเนาบัตรประชาชนแฟนผม ซึ่งผมยังไม่ได้เจอร้อยเวรเลย
อยากคุยอะไรกับดาบมั้ย?
นิว : ที่พี่พูดเมื่อสักครู่ว่ามีอะไรให้นิวไปคุยกับคนที่เขาทำให้เกิดเหตุ จริงๆ นิวก็อยากทำแบบนั้นแหละค่ะ นิวคุยกับใครได้นิวก็คุย แต่ตั้งแต่ที่เกิดเหตุมา นิวไม่เคยคุยกับเขาคนนั้น เป็นพี่คนเดียวที่คุยกับนิว
ดาบตร. : แล้วเบอร์โทรที่ให้ไป ไม่ได้ติดเต่อเขาเหรอ
นิว : เบอร์โทรที่ให้ไป เป็นของคุณหน่อง ทนาย ซึ่งเขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง เขาไม่เคยเข้าไป เขาไม่เคยดูคดี เขาไม่ได้รับว่าเขาจะคุยอะไรให้ เขาบอกแค่ว่าเดี๋ยวเขาต้องไปถามก่อน คนเดียวที่นิวคุยได้มันคือพี่คนเดียว แล้วพี่บอกว่าทำไมนิวไม่เข้าไปคุยกับพี่ พี่คะ แม่หนูตายค่ะ พ่อหนูพอแม่ตาย พ่อหนูก็แย่ลงทั้งร่างกายและจิตใจ (เสียงสั่นเครือ) หนูเป็นคนสูญเสีย ทำไมหนูต้องไปหาพี่ ทำไมต้องไปหาคนขับ ทำไมคนขับกับพี่ไม่มาหาหนู ไม่มาพูดว่าจะช่วยเหลืออะไร พี่พูดแต่ว่าไปพูดกับคนแถวนั้นเขารู้กันหมดว่าพี่จะช่วยเหลืออะไรหนู แต่พี่ไม่เคยพูดกับหนู แม้แต่ 1 ล้านบาทที่หนูเคยพูดกับพี่ไป พี่ยังไม่เคยมาต่อรองกับหนูสักแอะเลย พี่ไม่เคยเอ่ยเรื่องการเยียวยากับหนูเลย แล้วพี่มาพูดแบบนี้กับหนูได้ยังไง
ดาบตร. : ที่น้องบอกว่าเรียกล้านนึงทำไมไม่ต่อ พี่ไม่รู้จะต่อยังไง
ดาบอาจไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะดาบไม่ใช่เจ้าของรถคันนี้ คนเป็นเจ้าของรถคือภรรยาของดาบ สองดาบไม่ได้เปิดประตูแล้วไปชนรถของน้อง แต่เป็นลูกน้อง ซึ่งอยู่ในร้านของดาบ ที่ขับรถส่งน้ำแข็งให้ดาบ เรื่องนี้พัวพันเกี่ยวกับดาบตรงไหน พัวพันคือหนึ่งเป็นลูกน้อง สองชื่อเจ้าของรถคือภรรยาดาบ แต่ดาบเองก็ออกหน้ามาให้แหละ มีความรับผิดชอบของเขา แต่ตัวน้องเองเขาบอกว่าเขาไปไม่ถึงฝั่งคนเปิดประตูชนจริงๆ เพราะเขาไม่มีเบอร์ เขามีแต่เบอร์ทนาย เขาติดต่อทนายไป ทนายบอกว่ายังไม่รู้เรื่อง ก็ไม่รู้จะคุยยังไง ส่วนดาบก็บอกว่าเราควรไปคุยกับดาบเอง แต่ในฐานะดาบเป็นเจ้านายและสามีของเจ้าของรถ ก็พร้อมที่เยียวยาให้ตอนนี้ 2 แสน จ่ายให้เลย ส่วนที่หลายคนอาจมองว่าน้องขับรถไปชนเองหรือเปล่า ลองดูคลิปดีๆ ช่วงเวลามันคาบเกี่ยวกัน?
เอก : แต่อย่างไรก็ตาม การเปิดประตูรถก็ต้องระมัดระวังอยู่ดีครับ
พี่ธนกฤตมองยังไง?
ธนกฤต : เบื้องต้นให้กระทรวงยุติธรรมสอบถามไปยังพนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง ว่าคดีตอนนี้อยู่ชั้นไหนกันแน่ ชั้นอัยการหรือชั้นศาล สองคนขับรถต้องถูกแจ้งข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นคดีอาญา ต้องรับผิด ต่อมาเรื่องรับผิดในทางละเมิด ฟังจากดาบแล้ว ถือเป็นธุรกิจที่ภรรยาเป็นเจ้าของอยู่ ต้องถือว่ารับผิดในทางละเมิดด้วยเรื่องคดีแพ่ง ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งต่อไป ส่วนเรื่องที่บอกว่าขายรถหรือไม่ขายรถ ต้องไปดูสักนิดนึง ว่าเขามีการซื้อขายรถกันจริงหรือไม่ เมื่อกี้บอกว่าพูดกันเฉยๆ ก็เท่ากับเจ้าของรถต้องรับผิดชอบอยู่
เรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวกับดาบโดยตรง?
ธนกฤต : เราต้องแยกข้อกฎหมาย คนทำผิดคือคนขับรถ ต้องรับผิดทางอาญา คนต้องร่วมรับผิดคือนายจ้าง เพราะเขาบอกว่าเขาเป็นคนทำน้ำแข็ง มีส่วนต่างหรือไม่ก็ถือว่ามีส่วนได้เสียในทางละเมิด อันนี้ใครเป็นเจ้าของล่ะ ถ้าตร.เป็นเจ้าของก็ต้องมารับผิดชอบอยู่ดี ส่วนภรรยาถ้าเป็นเจ้าของรถ ก็ต้องรับผิดเหมือนกัน เพราะรถเป็นชื่อภรรยา การรับผิดทางแพ่งต้องเดินหน้าตรงนี้ต่อไปก่อน แต่ประเด็นพรบ. ผมคุยกับรองอธิบดีกรมขนส่งทางบกแล้ว เดี๋ยวไปตรวจสอบอีกทีว่าจะมีทางออกทางอื่นให้มั้ย เดี๋ยวหลังรายการผมเอาเบอร์ให้ จะได้ไปถามเรื่องพรบ. รถยนต์ไม่มีพรบ. รถมอเตอร์ไซค์มี แล้วจะมีการช่วยเหลืออย่างไร แล้วยื่นในส่วนของกระทรวงยุติธรรมในการรับเงินเยียวยา ส่วนเรื่องการไกล่เกลี่ย ก็ให้คุณเอก ลองดู ว่าใครมีเวลาที่จะไปพูดคุยกัน เราจะเป็นตัวกลางให้
คนขับรถ อยู่ในสาย ให้ภรรยาส่งข้อมูลเข้ามาในเพจ มีอะไรอยากจะพูด?
คนขับรถ : ผมพูดไม่ค่อยเก่ง ไม่รู้จะพูดยังไงดี
เหตุการณ์ในวันนั้นเกิดอะไรขึ้น เห็นบอกว่าน้องเขาขับรถซิกแซก?
คนขับรถ : ใช่ครับ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมขับรถส่งน้ำแข็งก็ชิดซ้าย ผมมองกระจกซ้ายขวาแล้วมองว่าไม่มีรถ ผมก็เปิดประตูลงไปครับ ผมมองแล้วคิดว่าไม่มีรถครับ
พอเปิดไปก็โดน ตอนนี้ในเบื้องต้น ได้คุยกับนายจ้างแล้ว?
คนขับรถ : คุยแล้วครับ เขาก็ชดใช้เป็นบางส่วนครับ
ตัวคุณเองล่ะ?
คนขับรถ : ผมไม่มีเงินไปชดใช้ให้เขาครับ ผมก็ทำงานเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย
คุณต้องจ่ายค่ากระบะต่อแทนนายจ้าง?
คนขับรถ : ตอนนี้ไม่ได้จ่ายแล้วครับ
เขาโอนให้เป็นของเรามั้ย?
คนขับรถ : ไม่ได้โอนครับ
มีการพูดคุยกันมั้ยว่าดาบจ่ายไม่ไหว จะเอารถมาให้เราจัดการเอง?
คนขับรถ : มีครับ
วันนี้คุณอยากพูดอะไรกับลูกสาวคนตายเขามั้ย หรือมีโอกาสเจอเขาบ้างมั้ย?
คนขับรถ : ผมก็อยากติดต่อเขาไปนะครับ คนกลางบอกว่าไม่ต้องให้ยุ่ง เดี๋ยวเขาจัดการเองหมดทุกอย่างดีกว่า
ทนายหรือใครที่เป็นคนกลาง หรือดาบ?
คนขับรถ : นั่นแหละครับ
เขาจะรับผิดชอบพูดคุยให้เองหมด?
คนขับรถ : ครับ เขาสั่งให้ผมพูดอย่างนั้นครับ
ตอนนี้ยังทำงานกับเขาอยู่มั้ย?
คนขับรถ : ไม่ได้ทำแล้วครับ ออกมาแล้วครับ
ทำไมถึงออก?
คนขับรถ : ผมทำงานคนเดียว รายได้ผมน้อย ไม่พอค่าใช้จ่ายครับ
พอเราออกมา เราได้มีการประสานไปหาฝั่งดาบอีกมั้ย ว่าคู่กรณีเขาเป็นยังไงบ้าง?
คนขับรถ : ประสานอยู่ครับ
อยากคุยอะไรกับลูกสาวผู้ตายมั้ย?
คนขับรถ : ผมอยากขอโทษเขา ผมพยายามจะไปหาเขา แต่ไม่รู้บ้านเขาอยู่ตรงไหน
สามีคนตาย แกก็หัวเราะหึๆ ออกมา คุณพ่อมองยังไง?
พ่อ : คุณก็ส่งน้ำแข็ง ก็เจอผม ไม่เคยถามว่าจะเข้าไปคุยอะไรเลย
คนขับรถ : ผมก็ถามลุงว่าป้าอาการเป็นยังไงบ้างครับ ตอนที่ป้ายังไม่เสีย
พ่อ : ตอนเสียแล้วได้ประสานกับดาบเขาบ้างหรือเปล่าล่ะ หรือไม่ได้คุยกันแล้ว
คนขับรถ : เจ้านายเขาบอกเป็นคนติดต่อลุงครับ
พ่อ : ที่บอกให้เบอร์โทรศัพท์ไว้กับร้านชำ ผมให้เบอร์ไป ก็ไม่เห็นติดต่อกลับมา
คนขับรถ : ผมคิดว่าใกล้ขึ้นศาลแล้วครับ เลยไม่ได้ติดต่อไป
พ่อ : ไม่กลัวติดคุกเหรอ
คนขับรถ : กลัวครับ
พ่อ : กลัวก็ต้องมาคุยกันสิ อย่าไปทำเงียบๆ เชื่อลูกพี่ไม่ได้หรอก เขาไม่ได้มาติดคุกกับเรานี่
มีอะไรอยากพูดอีกมั้ย?
คนขับรถ : ผมก็อยากขอโทษเขาต่อหน้าครับ
อยากให้มาเจอมั้ย?
นิว : แล้วแต่เขาค่ะ
ผู้เสียหายก็เปิดให้คุณมาเจอได้นะ?
คนขับรถ : ครับผม ผมอยากเจอครับ
เจ้านายอาจมองว่าเป็นเรื่องเขา แต่ด้วยหลักมนุษยธรรม คุณก็ต้องไปแสดงตัว?
คนขับรถ : ผมไม่ได้จะหนีไปไหน ไมได้หนีหมายศาล ผมก็ตามไปตลอด
ดาบยังอยู่ในสาย ตอนนี้คนขับรถเขาติดต่อมาในเพจโหนกระแส เขาบอกว่าทางดาบจะดูแลเอง?
ดาบตร. : ใช่ครับ ผมจะคุยกับทางฝั่งนี้ให้ โทรหาเขาให้ บางครั้งเขาทำงานไม่ได้พกโทรศัพท์ ก็อาจติดต่อยากอยู่เหมือนกันครับ
ดาบก็เลยเป็นคนจัดการให้?
ดาบตร. : ผมก็ดูแลตรงส่วนนี้อยู่ครับ ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะครับ จริงๆ แล้วมันอยู่ที่น้องเขา จะคุยกันจบตรงไหน จริงๆ แล้วผมบอกตรงๆ บางทีน้องเขาคุยกับผมทางไลน์แค่ครั้งเดียว แล้วน้องให้คนอื่นมาโทร ผมก็คุยนะ จากนั้นก็เงียบไปเลย
พ่ออยากคุยอะไรกับดาบ?
พ่อ : จริงๆ ก็รู้จักบ้านผม ดาบควรเข้าไปหาผม ไม่ใช่ให้ผมไปตามจี้แบบนั้น มันไม่ใช่นิสัยผม
ดาบตร. : จริงๆ ไม่ใช่ว่าต้องให้ลุงตามหรอก
พ่อ : จริงๆ ผมไม่ไว้ใจตั้งแต่ดาบเอารถผมไปถ่ายรูปแล้วไม่บอกผม แล้วผมจะรู้ได้ไง ว่ารถผมเสียหายตรงไหนบ้าง ผมยังไม่ได้ซ่อมเลย
ดาบตร. : ผมไม่ได้เอารถไปถ่ายนะครับคุณลุง คุณลุงต้องถามทางสน.นะครับ ร้อยเวรเขาเอาเจ้าหน้าที่ตร.มาตรวจสภาพตรงส่วนนั้นเป็นเรื่องทางร้อยเวร ไม่เกี่ยวกับผม
พ่อ : พอส่งไปที่อัยการ เขาบอกว่ารถไม่เห็นมีบาดแผลอะไรเลย
ดาบตร. : คุณลุงต้องเข้าใจว่าผมไม่ใช่คนทำสำนวนนะครับ ต้องสอบถามทางร้อยเวรนะครับ ลุงอาจเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า จริงๆ ลุงต้องถามทางร้อยเวร ผมไม่ใช่คนทำคดี ผมเป็นตร.ตัวเล็กๆ ครับ เพียงแต่มองว่าผมเป็นตร. พวกกันช่วยกัน ด้วยความสัตย์จริง ไม่เคยวิ่งเต้นคดีนี้แม้แต่คดีเดียว ผมพยายามช่วยเหลือ อยากให้คดีมันจบ
เป็นความรู้สึกฝั่งคุณลุง แกรู้สึกแบบนี้ แกก็พูดไปตามข้อเท็จจริงในมุมลุง ดาบยืนยันว่าเรื่องนี้สามารถคุยได้และจบได้?
ดาบตร. : ผมก็อยากให้จบมากกว่า เพราะคดีนี้ มันเกิดแบบนี้ขึ้นมา ก็ปวดหัว ไม่มีอันจะกระทำอะไรมากกว่า
ธนกฤต : ผมคิดว่าลองกลับไปทบทวน เรื่องตัวเลขที่น้องเขาตั้งไว้ 1 ล้านบาท ลองทบทวนว่าจะทำยังไงได้บ้าง จะเยียวยาหรือชดเชยให้เขาอย่างไร ยังไม่ต้องให้คำตอบผมวันนี้หรอก แล้วให้ประสานกับคุณเอก สายไหมต้องรอด แล้วไปที่กระทรวงยุติธรรม เดี๋ยวผมช่วยไกล่เกลี่ยให้ก็ได้ นายดาบต้องนึกถึงว่าวันนี้เขาเกิดความเสียหายจากคนของดาบ ลองกลับไปทบทวนดีกว่า น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ
คนขับรถเข้าไปพบผู้เสียหายเขาซะหน่อย?
ธนกฤต : กลับไปปรึกษากับเจ้านายเรา เราเป็นคนที่ทำให้เขาเสียชีวิต ไปคุยกันก่อน ทั้งตัวนายดาบ ภรรยา และคุณไปคุยกันให้ได้ข้อสรุปก่อนว่าจะช่วยเหลือเยียวยายังไง ถ้าคุยกันเป็นที่น่าพอใจ เวลาขึ้นศาลจะได้เบาตัวลงนิดนึง แนะนำว่าให้รีบปรึกษา สัปดาห์หน้านัดหมายเวลามา ไปที่กระทรวงยุติธรรม จะช่วยเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายเขาให้
เข้าใจว่าเจ้านายบอกว่าไม่ต้องยุ่ง แต่ต้องรู้สึกถึงอกเขาด้วย เขาเสียแม่ เสียภรรยา?
คนขับรถ : ครับ
ธนกฤต : ท้ายที่สุดเราต้องพูดคุย หน่วยงานรัฐเขาจะให้ได้อย่างไร ผมติดต่อรองอธิบดีให้แล้ว ลองติดต่อกับคนนี้อีกที เผื่อได้เงินเยียวยา การไกล่เกลี่ยก็ถือว่าเป็นการไกล่เกลี่ยตามกฎหมาย
 
				