“จุติ” โชว์ผลงานสร้างบ้านราคาถูกให้คนจนอยู่อาศัย ไม่ใช่มุ่งแสวงกำไรเหมือนอดีต

67

“จุติ” ตอกหน้าฝ่ายค้านซักฟอกเรื่องไม่เป็นความจริง พร้อมโชว์ผลงานสร้างบ้านราคาถูกให้คนจนอยู่อาศัย ไม่ใช่มุ่งแสวงกำไรเหมือนอดีต คุ้ยสอบจับคนโกงติดคุกแล้ว 14 คน ปรับแก้ไขบริษัทลูกจากขาดทุนมีผลกำไร ซัดกลับเดือดไม่เคยมีคดีล้มเจ้าเหมือนฝ่ายค้าน

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีการบริหารงานการเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยยืนยันว่าเข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้แก้ปัญหาการเคหะแห่งชาติเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างจริงจัง แม้การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยาก แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำถ้าทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น

“ที่ท่านกล่าวหาว่าผมมาทำงาน 3 ปี ยังไม่เห็นผลงานใดเลย ในเรื่องของที่อยู่อาศัย ขอเรียนว่าเมื่อมารับภาระกำกับดูแล กคช.นั้น ฐานะทางการเงินของ กคช.มีหนี้สินรวม 35,419 ล้านบาท มีทรัพย์สิน 53,746 ล้าน แต่มีภาระจากโครงการเอื้ออาทร ขาดทุน 38,843 ล้านบาท ทำให้ กคช. มีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยประจำปีละไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท เมื่อรายงานไปแล้ว คณะกรรมการได้รับข้อสังเกตจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เรื่องการดำเนินงานของ กคช. ซึ่ง สตง. มีข้อสังเกตให้คณะกรรมการสำรวจตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน และเห็นว่าระบบควบคุมภายในไม่มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การแก้ไขระเบียบ”

นอกจากนี้ สตง.ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติในการดำเนินการของบริษัทเซมโก้ มีการตั้งญาติอดีตผู้ว่าฯการเคหะมาเป็นคณะกรรมการเพื่อผลประโยชน์ และนำทรัพย์สินให้เช่าแต่ไม่ส่งรายได้ให้ กคช.จึงให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด เราต้องทำงานสู้กับระบบและนายทุนที่ผูกขาดกับ กคช.มานาน มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานไปยัง ป.ป.ช.ถึง 3 เรื่องด้วยกัน

นายจุติ กล่าวด้วยว่าได้แก้ปัญหาเร่งคืนเงินประกันที่ค้างยาวนานกว่า 10 ปีกว่า 1,400 ล้านบาทและมีการดำเนินการเร่งคืนเงินนั้นให้แก่บริษัทต่างๆ ที่มาวางเงินประกันไว้ทั้งหมดภายใน 3 เดือน ได้ปรับปรุงโครงสร้างเซมโก้ให้มีฐานะทางการเงินเข้มแข็ง มีการปรับปรุงสถานะทางการเงินให้ฟื้นตัวจากขาดทุนเป็นกำไร มีการตั้งคณะกรรมการปิดบัญชีเอื้ออาทร ส่งผลให้นักธุรกิจที่หากินกับ กคช. ได้รับโทษจำคุกไป 14 คน ระยะเวลาจำคุก 3-40 ปี

ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านแจ้งว่าผู้บริหารบริษัทลูกกระทำการทุจริตนั้น นายจุติ ชี้แจงว่าการแต่งตั้งนักปั่นหุ้นมาเป็นคณะกรรมการ ไม่เป็นความจริง เพราะการแต่งตั้งคณะกรรมการต้องดำเนินการถึง 4 ขั้นตอน ต้องผ่านความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง สำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ และมีกฎหมายกำหนดว่าผู้ที่มีคดีติดตัวจะไม่สามารถเป็นคณะกรรมการได้ และบุคคลชื่อย่อ จรร.ดังกล่าวไม่ได้เป็นที่ปรึกษา รมว.แต่อย่างไร และไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจที่สังกัดกระทรวง ICT

ประการต่อมามีการทุจริต สมัย 3 G ขณะนั้น เรื่องนี้ผมได้รับมอบหมายให้ไปทบทวนผลการประมูล 3 G ผลการประมูลอยู่ที่ 29,000 ล้านบาท ผมไปจัดระบบใหม่ ประหยัดเงินงบประมาณให้ประชาชนได้ 12,000 ล้าน ซึ่งงบประมาณที่ประมูลได้ แค่ 17,000 ล้านเท่านั้น

ประการต่อมา ท่านกล่าวหาว่าผมแอบอ้างสถาบันเพื่อทำโครงการนี้ ผมก็ยืนยันกับท่านว่าไม่เคยมีคำสั่ง ไม่เคยมีจดหมายไปขอ การกระทำแบบนี้สิ่งที่ผมทำ ทำด้วยความจริงใจ ทุกเรื่องที่ทำ ถวายสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดจนตาย และขอยืนยันว่าพรรคของผมไม่เคยมีคดีล้มล้างการปกครอง คดีล้มเจ้าแน่นอน

ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าผมบีบบังคับให้อดีต ผู้ว่า.กคช. ลาออกเพราะว่าไม่สนองนโยบายนั้น นายจุติกล่าวว่าอยากให้ท่านเห็นจดหมายลาออกของผู้ว่าฯท่านเขียนลาออกเพราะปัญหาสุขภาพ ผมไม่ได้บีบให้ท่านลาออก นอกจากนั้นแล้วท่านกล่าวหาว่า ผมนำเรื่องเข้า ครม.เพื่อทราบไม่ใช่เพื่ออนุมัติ คนฟังก็ดูว่าผมไม่ดีเพราะเหมือนผมเลี่ยงบาลี เนื่องจากมีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ว่างบประมาณการลงทุน ไม่เกิน 1000 ล้านบาทไม่ต้องขอความเห็นชอบ คณะรัฐมนตรี ให้สภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ ไม่ใช่คณะรัฐมนตรี ก็อยากจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องจากท่านด้วย

นอกจากนั้นแล้วข่าวลือ ที่ว่าเคหะสุขประชาใช้เวลา 200 ปี กว่าจะคืนทุน ได้รับคำยืนยันจากผู้ว่าฯ ประธานกรรมการไม่มีโครงการไหนที่ว่า 200 ปีคืนทุน แถึงมีก็ไม่ผ่านสภาพัฒน์ฯไม่อนุมัติ แต่สิ่งที่มีคือได้เปลี่ยนวิธีการทำงาน วิธีคิดของการเคหะแห่งชาติ จากทำกำไรในเชิงพาณิชย์ให้คืนกำไรสู่สังคม จากที่ขายบ้านเพื่อเอากำไร มาเปลี่ยนเป็นสร้างบ้านให้เช่า อยู่ได้ตลอดชีวิต ราคาถูกว่าตลาด และไม่ใช่แค่สร้างบ้านเฉยๆ แต่สร้างบ้านพร้อมอาชีพ พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิต อย่างที่การเคหะฯ ไม่เคยทำมาก่อน แต่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำ และได้ทำอย่างจริงจัง

วันนี้ นายกรัฐมนตรีให้นโยบายมาแล้ว ให้แก้ปัญหาความยากจน แบบพุ่งเป้า อยู่แบบพอเพียง ให้คนมีรายได้น้อยอยู่ได้ ผมไปลงพื้นที่ที่ซอยหมอเหล็ง กลาง กทม. ห้องที่เขาอยู่พอๆ กับห้องน้ำ แต่เขาเสียค่าเช่าเดือนละ 2,500 บาท ใช้ห้องน้ำรวม สุขอนามัยก็ไม่มี ความปลอดภัยก็ไม่มี วันนี้การเคหะฯ นั้นนำที่ดิน ที่เคยซื้อไว้ 17 ปีที่แล้ว นำมาแปลง ในที่ที่มีคนอยู่ได้ มีอาชีพได้ สามารถมีค่าเช่า ที่ถูกกว่าตลาด ถึง 40 % เราคิดถึงขนาดว่า 2 คน ผัวเมีย ถ้ามีอาชีพรับจ้าง เป็นกรรมการ มีเงินรายได้วันละ 320 บาท จ่ายค่าเช่าวันละ 50 บาท จ่ายค่าน้ำค่าไฟ วันละ 50 บาท ยังมีเงินเหลือกินเหลือใช้ และสามารถประกอบอาชีพได้ นี่คือสิ่งที่รัฐบาล ต้องการ

ข้อกล่าวหาข้อต่อไป ให้เซ็มโก้ คือ บริษัทลูก รับงานนอกวัตถุประสงค์ และไปขออนุมัติ ครม. ขอเรียนว่า วัตถุประสงค์การก่อตั้ง เซ็มโก้ ตามมติ ครม. ปี 2537 มีมาตั้งนานแล้วว่า วัตถุประสงค์ของเซ็มโก้ ทำอะไรได้บ้าง ผมจึงอยากจะกราบเรียนว่า สิ่งที่กล่าวหาผม แก้ไขหนังสือบริคนณ์สนธิ ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่าเป็น พรรคเดียวกัน เอื้อให้เซ็มโก้ นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะว่าเซ็มโก้ ก็สามารถถมดินได้อยู่แล้ว แต่ที่ไปกระทรวงพาณิชย์ เพื่อไปขยายวัตถุประสงค์ เพราะว่าวันนี้ธุรกิจใหม่ ๆ เปลี่ยนแปลงไปเยอะแล้ว ต้องให้คนต่างบริษัท ได้ทำธุรกิจนี้บ้าง สิ่งที่อยากจะกราบเรียนก็คือว่า วันนี้สังคมเปลี่ยนไปมาก เราสามารถทำตามข้อเสนอของ สตง. ว่าให้ทำ บ.ลูกให้เข้มแข็ง เลิกมาพึ่งแม่ สักที ต้องอบรมให้ได้ เข้มแข็งให้ได้ และสามารถดูแลประชาชนได้ นั่นคือ ภารกิจที่คณะกรรมการ การเคหะฯ ได้ทำลงไป