เว็บไซต์ Blognone รายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.)จัดประกวดราคาซื้อ “ระบบติดตามข้อมูลสังคมออนไลน์อัตโนมัติ” โดยเก็บข้อมูลจากเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, และพันทิป
ระบบนี้สามารถดึงข้อมูลจากโพสและคอมเมนต์ที่เป็นสาธารณะเท่านั้น โดยเฟซบุ๊กนั้นสามารถดึงข้อมูลได้ทั้งหน้าเพจและหน้าโปรไฟล์ สำหรับทวิตเตอร์มีข้อจำกัดเพิ่มเติมคือ ดึงได้ไม่เกิน 1,000 บัญชี ที่น่าแปลกคือ พันทิปที่เก็บข้อมูลได้จำนวนมาก ยังรวมไปถึงจำนวนผู้แสดงความรู้สึกด้วย
บล็อกนัน แสดงความเห็นว่า ซอฟต์แวร์นี้ไม่ได้ต่างจากซอฟต์แวร์ที่แบรนด์ต่างๆ ใช้งานกันมากนัก แต่ความต่างที่สำคัญน่าจะเป็นการตรวจสอบภาพใบหน้าจากฐานข้อมูลหมายจับและจากบุคคลทำประวัติจากสถานีตำรวจ โดยสามารถตรวจสอบจากภาพโปรไฟล์ของเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ รองรับฐานข้อมูลขนาดไม่เกิน 500,000 คน
ด้านฮาร์ดแวร์ใช้เซิร์ฟเวอร์ถึง 22 เครื่อง เป็นเครื่องหลัก 2 เครื่อง วางเซิร์ฟเวอร์ไว้ในศูนย์ข้อมูลสองแห่ง
ทั้งนี้ในความเห็นของสมาชิกบล็อกนันกล่าวว่า “ทางแก้ปรับไม่ให้แสดงความเห็นออกสู่สาธารณะ และ เลิกเล่น Pantip?” เพราะระบบดังกล่าวใช้ตรวจสอบข้อมูลได้แต่เฉพาะที่ตั้งเป็นสาธารณะเท่านั้น ขณะที่สมาชิกบางรายให้ความเห็นว่า “ผมว่าทำไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก แก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด ใช้ทรัพยากรได้ไม่คุ้มค่ากับที่เสียไป เสียดายงบประมาณจริงๆ จะทำไปทำไม….”
ที่มา: เว็บไซต์ Blognone