ย้อนเหตุการณ์มารยาทสุดเอือมของสื่อบันเทิงไทย

10029

หลังจากที่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์สื่อบันเทิงไทยในกรณีของการทำข่าวขณะมีการเคลื่อนย้ายศพ “ปอ ทฤษฎี” ที่นักข่าวจำนวนมากต่างแทรกเสียดเบียดเข้ามาในบริเวณที่กำลังทำการเคลื่อนย้ายศพ ทั้งๆ ที่มีรั้วเหล็กกั้นไว้ แต่สื่อเหล่านี้ก็ยังพยายามทุกทางเพื่อแทรกตัวเข้าไปถ่ายภาพ ทำให้ครอบครัวของปอ ทฤษฎี ไม่ได้รับความสะดวกในการเคลื่อนย้ายศพ จนแม้แต่พระสงฆ์ผู้ทำหน้าที่ถือสายสิญจน์นำร่างศพ หรือน้องชายคนรองของปอที่ทำหน้าที่ถือกระถางธูปอันเป็นธรรมเนียมปฎิบัติที่จะต้องเดินนำหน้าในพิธี และ “โบ แวนดา” ภรรยาของปอที่ถือรูป ก็กลับโดนนักข่าวเบียดแทรกจนแทบจมหายไปในฝูงสื่อที่กำลังกระหายข่าวจนละเลยมารยาท กาลเทศะ และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพไปหมดแล้ว

นักข่าวเบียดทำข่าว-ปอ-ทฤษฎี3

เครดิต : www.facebook.com/slowerlife

 

นี่จึงเป็นประเด็นที่ว่า “สื่อบันเทิงไทยยุคนี้มารยาทเสื่อมทรามลงทุกที!” แม้ว่าจะไม่ใช่ “สื่อ” ทั้งหมดที่กระทำผิดจรรยาบรรณและมารยาทเช่นนี้ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนทำให้ประชาชนมองวงการสื่อมวลชนในทางลบและตกต่ำทางจริยธรรมลงทุกที…

 

1381493788-1381428123-o

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ก็เคยมีกรณีปัญหาระหว่าง “สื่อ” กับ “ดารา” ในเรื่องของพิธีการสำคัญเช่นเดียวกัน โดยครั้งนั้นเป็นงานหมั้นของ “พีท ทองเจือ” และภรรยา “เจ็ง วิไลลักษณ์” ซึ่งยุคนั้นการหมั้นของดารานักแสดงจะไม่ค่อยมีการจัดแถลงข่าว หรือเชิญให้นักข่าวมาถ่ายภาพอย่างในปัจจุบัน โดยงานนี้พีทและภรรยาต้องการให้พิธีหมั้นเป็นแบบส่วนตัว ที่มีเฉพาะญาติผู้ใหญ่และเพื่อนฝูงที่สนิทมาร่วมงานเท่านั้น แต่กลับมีนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งแอบแฝงตัวเข้าไปในพิธี และลั่นชัตเตอร์ถ่ายรูปเอาไว้ ทำให้พีทต้องสั่งให้ รปภ.มาเชิญตัวออกไปทำให้เกิดการยื้อและกลายเป็นสื่อคนนั้นโดนลากตัวออกจากงาน เป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจในหมู่นักข่าวเกิดขึ้นต่อการกระทำของพีท แม้ว่าเจ้าของงานจะบอกกล่าวไว้แต่แรกแล้วว่า เป็นพิธีส่วนตัวไม่อนุญาตให้มีการทำข่าวก็ตาม

เหตุการณ์นี้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนถึงขั้นที่นักข่าวหลายสำนักโหวตให้มีการ “แบน” ไม่ทำข่าว พีท ทองเจือ เป็นเวลาถึง 2 ปี ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ดาราคนดังมากมายเมื่อจะจัดงานแต่ง งานหมั้น หรือแม้กระทั่งตั้งท้องหรือคลอดลูก ก็จะต้องจัดแถลงข่าว และมีการเชิญสื่อกันอย่างเป็นทางการ

collage24

อีกกรณีหนึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานเมื่อปีที่แล้ว กับการจากไปของ สิงห์ Sqweez Animal เกิดขึ้นในวันที่เคลื่อนศพของสิงห์เช่นกัน คล้ายกับเหตุการณ์ของปอ ทฤษฎี แม้ผ่านไปแค่ปีเดียวที่เสียงวิจารณ์ในเรื่องมารยาทและจรรยาบรรณสื่อยังไม่ทันจาง ครั้งนั้นตากล้องคนหนึ่งถึงกับยื่นเหยียบเก้าอี้เพื่อถ่ายภาพร่างของสิงห์ โดยมีภาพหลักฐานออกมาให้เห็นชัดเจนว่าตากล้องกำลังยื่นค้ำหัวญาติผู้ใหญ่ของเฟย์อยู่ และยังรวมไปถึงภาพของสื่อจำนวนมากที่ต่างยืนล้อมร่างไร้วิญญาณของสิงห์อย่างหนาแน่น โดยมีการวิจารณ์ถึงการแต่งกายของสื่อที่ไม่ได้ให้เกียรติผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด เพียงมุ่งแต่จะให้ได้ภาพข่าวมาเท่านั้น ตลอดจนประเด็นของการตั้งคำถามถาม “เฟย์ FFK” แฟนสาวของสิงห์ ในขณะที่เธอกำลังเสียใจร้องไห้อย่างหนัก ต่อมาไม่นานเมื่อคราวเฟย์เข้ารับปริญญาที่จุฬาฯ สื่อบันเทิงที่ไปทำข่าวในงานก็ไม่หยุดที่จะถามคำถามเกี่ยวกับการจากไปของสิงห์ทั้่งที่เหตุการณ์ผ่านไปนานแล้ว จนทำให้เฟย์ถึงกับร้องไห้ออกมาในวันแห่งความสำเร็จของเธอ ซึ่งสมควรจะเป็นวันที่มีแต่ความสุขและรอยยิ้ม!!

28669_th

อีกประเด็นหนึ่งของสื่อบันเทิงผู้กระหายภาพข่าวสดใหม่แข่งกัน ที่บ่อยครั้งไม่ “เคารพในสิทธิของผู้อื่น” โดยมักจะตั้งการ์ดว่าเป็นการทำหน้าที่ตาม “เสรีภาพของสื่อ” และอ้างว่าเป็นความต้องการของผู้อ่านหรือผู้ชม ทั้งที่เป็นการ “ละเมิดสิทธิ” อย่างชัดเจน เช่นเรื่องของการใช้แฟลชถ่ายภาพลูกดารา ซึ่งมักเป็นเด็กเล็กๆ ที่ดวงตามีความอ่อนไหวต่อแสงแฟลช ซึ่งกรณีนี้ในต่างประเทศนั้นการทำหน้าที่ของสื่อมักให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่อง “สิทธิเด็ก” ค่อนข้างมาก ซึ่งต่างจากสื่อไทยที่กลับทำในสิ่งตรงกันข้าม

190d777

แอนนี่ กับน้องฑีฆายุในวัยไม่ถึงขวบโดนแสงแฟลชกระหน่ำมานับไม่ถ้วน

hqdefault

น้องมะลิ ลูกปอ ทฤษฎี กับพี่ๆ นักข่าวที่ตามเฝ้าถ่ายรูปทุกอิริยาบถ

………

ดารา กับ สื่อ เป็นอาชีพที่เป็นเสมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า คนดังต้องพึ่งการสนับสนุนและประชาสัมพันธ์จากสื่อ ขณะเดียวกันสื่อก็ต้องการขายข่่าว และอยู่ได้เพราะการสนับสนุนจากประชาชนคนเสพย์ข่าวสารเช่นกัน แต่ถ้าสื่อเมืองไทยทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาลง จนเกิด “วิกฤติศรัทธาในวงการสื่อ” ก็น่าคิดว่า สื่อที่ไร้ซึ่งจรรยาบรรณจะยังคงอยู่รอดในวงการได้หรือไม่….ท่ามกลางทางเลือกใหม่ๆ ในการเสพย์ข่าวสารของผู้คนยุคนี้ อย่าลืมว่าประชาชนย่อมมีทางเลือกเสมอ!