เยาวชนโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ กว่า 300 คน เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา โดยสวัสดิ์ภาพ ด้านเยาวชน เผย เป็นโอกาสดี ที่ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่หลายหลาย

59

นายเอกลักษณ์  สุขเกษม  หนึ่งในเยาวชนจาก อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ที่เข้าร่วมโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ เปิดเผยว่า ผมรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง และได้เข้าร่วมโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ในครั้งนี้ ซึ่งในการคัดเลือกนั้นมีเยาวชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และโครงการนี้ก็รับแค่จำนวนจำกัด แต่ผมก็สามารถติด 1 ในนั้นได้ ซึ่งในการเข้าร่วมกิจกรรมนั้นผมได้ทำและได้รับสิ่งที่มีประโยชน์มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือมิตรภาพจากเพื่อนต่างโรงเรียนต่างศาสนา ต่างพื้นที่ทำให้เกิดความผูกพันที่ดีต่อกัน ทั้งนี้ผมต้องขอบคุณโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ ซึ่งโครงการนี้ผมถือว่าเป็นโครงการที่มีเกียรติมากๆ  ได้มอบโอกาสดีๆให้กับเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองกรุง ได้เรียนรู้วัฒนธรรมนอกพื้นที่ รวมถึงได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดีในการใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ ที่คอยอบรมสั่งสอน ให้ความรู้ที่ดีเสมอมา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มันคือความประทับใจที่ไม่มีวันลืม

สำหรับในการเดินทางกลับของเยาชนในแต่ละพื้นที่นั้นจะมีเจ้าหน้าที่ ในแต่ละอำเภอ​ตามภูมิลำเนาของเยาวชน​มารับต่อจากจุดนัดหมายของแต่ละจังหวัด​ คือ​ จังหวัดนราธิวาส​รับที่สนามบิน​นราธิวาส​ จังหวัดยะลา​รับที่สนามโรงพิธี​ช้างเผือก และจังหวัดปัตตานี​รับที่ลานวัฒนธรรม​ ณ​ สนาม​ ร.​5 เพื่อ​เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย

ทั้งนี้กิจกรรมของโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 36 ได้นำเยาวชนจำนวน 320 คน จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่นับถือศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ ไปใช้ชีวิตร่วมกัน โดยมีการพำนักอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน – 1 พฤศจิกายน 2562 เพื่อต้องการให้เยาวชนได้รับความรู้ และประสบการณ์จากการเรียนรู้จากการทัศน์ศึกษา ในสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนได้มีโอกาสเข้ารับฟังโอวาทจากผู้นำระดับสูงของประเทศ ผู้นำศาสนา และได้เข้าค่ายฝึกอบรมจากส่วนราชการต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ดำเนินการมาแล้ว 36 รุ่น มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8,000 คน ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์และเข้าใจในการอยู่ร่วมกันของสังคมพหุวัฒนธรรม อีกทั้งเยาวชนได้มีโอกาสอาศัยร่วมกับครัวครัวอุปถัมภ์ ที่เป็นครอบครัวที่สองของเยาวชนทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในขณะที่พำพักอยู่ในกรุงเทพมหานคร คอยอบรม สั่งสอน เลี้ยงดูและถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดความเข้าใจและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไป