“ทูตจีนประจำประเทศไทย” ยกสาระสำคัญ 5 ประการเทิดทูน “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระบรมราชินี” เสด็จฯเยือนจีน ยกเป็นการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต “50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” ตอกย้ำความสัมพันธ์ “จีนไทยครอบครัวเดียวกัน” ร่วมกันสร้างรากฐานที่มั่นคง-แข็งแกร่ง-แน่นแฟ้น-ทรงคุณค่ายิ่งแห่งมหามิตรประเทศ
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย – นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เปิดแถลงรายงานการเสด็จฯเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13–17 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา พร้อมเปิดวิดีโอการเสด็จฯเยือนและตอบคำถามสื่อมวลชนไทย

นายจาง เจี้ยนเว่ย กล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนตามคำทูลเชิญของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง การเสด็จฯเยือนครั้งนี้ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย และ “50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” นับเป็นการเสด็จฯ เยือนประเทศจีนครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ไทย นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย และประเทศจีนยังเป็นประเทศใหญ่ประเทศแรกที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯเยือนนับตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย ระหว่างการเสด็จฯเยือนจีน ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้พบปะหารือกับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และบรรลุฉันทามติสำคัญเพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย
ทั้งสองเห็นพ้องที่จะร่วมกันนำการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันให้มีความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่กว่าในอีก 50 ปีข้างหน้า และร่วมกันเขียนบทใหม่ของมิตรภาพจีน-ไทย ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยังได้จัดพิธีถวายการต้อนรับและงานเลี้ยงพระกระยาหารอย่างยิ่งใหญ่แด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนก็ได้พบปะหารือกับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างการเสด็จฯเยือนจีน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้ทรงวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน และทรงเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในกรุงปักกิ่ง เพื่อทรงเข้าใจถึงความสำเร็จในการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยของจีนอย่างใกล้ชิดและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างจีนและไทยในด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา และวัฒนธรรม

การเสด็จฯเยือนครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากทุกภาคส่วนของสังคมทั้งจีนและไทย ตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ว่า “จีน ไทยครอบครัวเดียวกัน” อย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างไมตรีจิตระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความกระตือรือร้นในการกระชับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน และสร้างแรงผลักดันที่แข็งแกร่งให้กับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคต การเสด็จฯเยือนครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามและเหนือความคาดหมายอย่างมาก ในฐานะเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการเตรียมการและตามเสด็จฯ ตลอดการเสด็จฯเยือนประเทศจีน ในโอกาสนี้ ผมขอแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกบางประการกับสื่อมวลชน
ประการแรกความเข้าใจสำคัญที่สุดจากการเสด็จฯเยือนครั้งนี้คือ การนำของประมุขแห่งรัฐเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดและเป็นหลักประกันพื้นฐานสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2565 ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้เยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ โดยได้บรรลุฉันทามติสำคัญกับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันซึ่งเป็นการขับเคลื่อนความสัมพันธ์จีน-ไทยสู่ขั้นใหม่และทำให้รากฐานมิตรภาพระหว่างสองประเทศมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และงแรงผลักดันความร่วมมือมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ไทยทรงใส่พระทัยและสนับสนุนมิตรภาพจีน-ไทยมาอย่างยาวนาน โดยมีบทบาทชี้นำพิเศษในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี สิ่งที่ประทับใจฝ่ายจีนเป็นพิเศษคือ หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและอยู่ในช่วงน้อมถวายความอาลัยทั่วประเทศในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงยืนยันที่จะเสด็จฯเยือนจีนตามหมายกำหนดการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและฝ่ายไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์จีน-ไทย

ระหว่างการเสด็จฯเยือน ประมุขแห่งรัฐทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นโดยภาพรวมและประเด็นเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-ไทย ทั้งสองเห็นพ้องกันว่า นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป จีนและไทยยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ ช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน และเป็นญาติมิตรที่ดี มิตรสหายที่ดี และหุ้นส่วนที่ดีอย่างแท้จริง ประมุขแห่งรัฐทั้งสองเห็นพ้องกันว่า ในช่วงเวลาสำคัญของการพัฒนาประเทศ ทั้งสองฝ่ายควรเสริมสร้างความสอดคล้องเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นจากความร่วมมือระหว่างจีน-ไทย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสังคม วัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดและผูกพันกันมากยิ่งขึ้น
การทูตประมุขแห่งรัฐได้นำพาความสัมพันธ์จีน-ไทยสู่ยุคสมัยใหม่ ณ จุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ครั้งใหม่นี้ จีนยินดีที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์จีน-ไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเพื่อนำไปสู่ “50 ปีทอง” อันรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้นอีกวาระหนึ่ง
ประการที่สอง ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดของการเสด็จฯเยือนครั้งนี้คือการกำหนดแนวทางและแผนพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคต ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกล่าวว่า การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ได้พิจารณาและอนุมัติข้อเสนอ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี ฉบับที่ 15” ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและการขยายการเปิดประเทศกว้างในระดับสูง จีนยินดีที่จะเสริมสร้างการประสานยุทธศาสตร์กับไทย ส่งเสริมความร่วมมือในโครงการสำคัญๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการรถไฟจีน-ไทย ขยายการนำเข้าสินค้าเกษตรคุณภาพสูงของไทย และขยายความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการบินและอวกาศ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า ไทยและจีนมีมิตรภาพที่ใกล้ชิด มีการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนอย่างสม่ำเสมอ และมีความร่วมมือที่กว้างขวางและลึกซึ้งซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกัน ความร่วมมือไทย-จีนเป็นความร่วมมือแบบพี่น้อง ไทยยินดีที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์การพัฒนาของจีน ขยายความร่วมมือกับจีนในหลากหลายสาขา เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน และกระชับมิตรภาพระหว่างไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ประมุขแห่งรัฐทั้งสองประเทศได้กำหนดแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย ผลักดันความร่วมมือฉันมิตรระหว่างสองประเทศให้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เรารับทราบว่าเมื่อกลับจากการตามเสด็จฯ เยือนจีน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสริมสร้างการประสานงานกับฝ่ายจีนและผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ จีนขอชื่นชมในการปฏิบัติการนี้เป็นอย่างยิ่ง เรายินดีที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับไทยเพื่อปฏิบัติตามฉันทามติสำคัญที่ประมุขแห่งรัฐทั้งสองได้บรรลุร่วมกันอย่างจริงจัง และยกระดับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างสองประเทศให้ดียิ่งขึ้น
ประการที่สาม ช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุดของการเสด็จฯเยือนครั้งนี้คือปฏิสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างประมุขแห่งรัฐทั้งสอง ในพิธีถวายการต้อนรับ การพบปะอย่างเป็นทางการ และงานเลี้ยงต้อนรับ ประมุขแห่งรัฐทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างลึกซึ้งในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร ต่างมีความสุขที่ได้อยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น วลีที่ว่า “จีน ไทยครอบครัวเดียวกัน” กลายเป็นคำที่มักถูกกล่าวถึงบ่อยครั้ง ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งระหว่างราชวงศ์ไทยและรัฐบาลจีน พร้อมยกย่องบทบาทสำคัญของราชวงศ์ไทยในการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างจีนและไทย ประธานาธิบดีกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายควรรักษาการแลกเปลี่ยนเยือนกันอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกับสมาชิกในครอบครัว และยินดีต้อนรับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ให้เสด็จฯเยือนจีนบ่อยขึ้น ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยังได้ชื่นชมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริของราชวงศ์ไทย โดยแสดงความตั้งใจของฝ่ายจีนที่จะให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันและเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบรรเทาความยากจนกับไทย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศไทย ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยังได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและน้อมถวายความอาลัยการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแสดงความยินดีกับจีนในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม พร้อมทั้งทรงยกย่องทั้งสองประเทศว่าเป็น “ญาติสนิท” และทรงแสดงความยินดีและภาคภูมิใจอย่างจริงใจในความสัมพันธ์จีน-ไทยที่พัฒนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หลังพิธีถวายการต้อนรับเสร็จสิ้น ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กราบบังคมทูลถึงประวัติและรูปแบบสถาปัตยกรรมของจัตุรัสเทียนอันเหมิน ณ จัตุรัสประตูตะวันออกของมหาศาลาประชาชน ก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยังได้กราบบังคมทูลภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่แสดงถึงแกนกลางของกรุงปักกิ่งในห้องประชุม สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง และผ่อนคลาย ในงานเลี้ยงต้อนรับที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงถวายแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว บทเพลง “ใกล้รุ่ง” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงประพันธ์ ได้บรรเลงอย่างกึกก้องไปทั่วห้อง สื่อถึงความรักใคร่และเครือญาติอันใกล้ชิดระหว่างจีนและไทย ปฏิสัมพันธ์ฉันมิตรเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและความไว้วางใจอันลึกซึ้งระหว่างประมุขแห่งรัฐทั้งสอง และจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพัฒนาการเชิงบวกของความสัมพันธ์จีน-ไทย อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสายสัมพันธ์ “จีน-ไทยครอบครัวกัน”ที่มีมายาวนาน
ประการที่สี่ การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมและเนื้อหาอันเข้มข้น ไม่เพียงแต่เป็นการเสด็จฯเยือนแห่งมิตรภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสด็จฯเยือนแห่งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เสด็จฯเยือนแห่งวัฒนธรรม และเสด็จฯเยือนแห่งการศึกษา ด้วยการเตรียมการอย่างพิถีพิถันของฝ่ายจีน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะในอุตสาหกรรมการผลิต การแพทย์และการดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการ ไบโอนิก การปฏิบัติงานระยะไกล และการใช้ชีวิตในบ้าน พระองค์ยังทรงเยี่ยมชมสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งประเทศจีนและศูนย์ฝึกอบรมนักบินอวกาศแห่งประเทศจีน และทรงสนทนาแบบเรียลไทม์จากพื้นดินสู่อวกาศกับนักบินอวกาศเสินโจว-21 ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจในอวกาศ ณ ศูนย์ควบคุมการบินอวกาศปักกิ่ง นับเป็นการจัดเตรียมพิเศษที่ฝ่ายจีนได้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมมิตรภาพระหว่างจีนและไทยในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือน พระองค์ได้ทรงแสดงความยินดีกับจีนในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ด้านเทคโนโลยีอวกาศ และทรงซักถามด้วยสนพระทัยยิ่งเกี่ยวกับสภาพการทำงานและที่พักอาศัยของนักบินอวกาศ การประชุมทางวิดีโอที่วางแผนไว้เดิมใช้เวลาเจ็ดหรือแปดนาที แต่กลับใช้เวลาเกือบ 20 นาที ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านและยกระดับเศรษฐกิจอย่างแข็งขัน การเสด็จพระราชดำเนินเยือนของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทอดพระเนตรเห็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของจีน รวมถึงความสำเร็จด้านนวัตกรรมอันล้ำสมัย ผมเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ การสำรวจอวกาศลึก และการบินอวกาศ มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นไฮไลท์สำหรับความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างจีนและไทย
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใส่พระทัยอย่างยิ่งต่อการศึกษา ในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีน พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีและทรัพยากรการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจีน และทอดพระเนตรชั้นเรียนภาษาอังกฤษแบบโต้ตอบแบบเรียลไทม์ทางไกล ซึ่งจัดโดยโรงเรียนประถมศึกษาสองแห่งในกรุงปักกิ่งและไหหลำ ผ่านแพลตฟอร์มการศึกษาอัจฉริยะ การดำเนินการเช่นนี้จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านการศึกษาอัจฉริยะระหว่างสองประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในประเทศไทย พระองค์ยังเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมวัดหลิงกวงเป็นพิเศษเพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว และเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพิธีเปิดนิทรรศการโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมจีน-ไทย ณ พิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณ กิจกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความผูกพันทางวัฒนธรรมและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างจีนและไทย และเสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสอง
ประการที่ห้า ประโยชน์สำคัญที่ไม่คาดคิดจากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งนี้คือ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีทรงได้รับความชื่นชมอย่างล้นหลามในประเทศจีน การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างสูงจากทุกภาคส่วนของสังคมจีน พระบารมีและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสิริโฉมและพระจริยวัตรอันอันงดงามสง่าของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีสร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตชาวจีนเป็นอย่างมาก ดึงดูดแฟนๆ จำนวนมาก และจุดประกายให้เกิด “กระแสการท่องเที่ยวไทยบูม” ในประเทศจีน เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่งผลให้ชาวจีนมีความประทับใจในไทยมากขึ้น หัวใจของประชาชนทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น และความสัมพันธ์ “จีน ไทยครอบครัวเดียวกัน” ได้หยั่งรากลึกลงในจิตใจของประชาชนมากยิ่งขึ้น
เป็นที่น่าสังเกตว่าการเสด็จฯเยือนครั้งนี้อยู่ในช่วงเวลาแห่งการถวายความอาลัยการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้การเสด็จฯเยือนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ ทั้งจีนและไทยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดตลอดมา โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งเคารพขนบธรรมเนียมประเพณีทางวัฒนธรรมของทั้งสองฝ่าย เพื่อแสดงความเสียใจและถวายความอาลัยต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ฝ่ายจีนได้จัดเตรียมสถานที่อย่างพิถีพิถัน โดยตกแต่งสถานที่อย่างเรียบง่ายแต่สง่างาม สะท้อนบรรยากาศที่เคร่งขรึมและสง่างาม พนักงานต้อนรับชาวจีนทุกคนสวมชุดสีเข้มเพื่อแสดงความเคารพต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและฝ่ายไทย ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อสำนักพระราชวัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ความร่วมมืออย่างจริงใจระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของทั้งจีนและไทยทำให้การเสด็จฯเยือนครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์

ผมยังต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนทั้งจีนและไทยสำหรับความร่วมมืออย่างดียิ่งและการรายงานข่าวอย่างเข้มข้นทั้งก่อนและหลังการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศจีน ภาพของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวร่วมตรวจแถวกองเกียรติยศ เดินเคียงข้างกันเข้าสู่สถานที่จัดงาน และสนทนาอย่างเป็นกันเอง เป็นที่กล่าวขวัญอย่างกว้างขวาง การจัดขบวนรถจีน เครื่องแบบของเจ้าหน้าที่ และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่พิถีพิถัน ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง ชาวเน็ตไทยต่างยกย่องความสมพระเกียรติอย่างยิ่งที่ฝ่ายจีนถวายต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว การต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นด้วยวลีที่ซาบซึ้งใจ เช่น “ขอบคุณประเทศจีนสำหรับการถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างสมพระเกียรติ” “ขอบคุณประเทศจีนให้ความเคารพและนับถืออย่างสูงสุดต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและระบบการเมืองไทย” และ “ไทย จีน ครอบครัวเดียวกัน” เมื่อรายงานข่าวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน สื่อมวลชนไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญพิเศษของการทรงวางพวงมาลา และยกย่องความไว้วางใจและการสนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างจีนและไทย นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุดถึงมิตรภาพอันใกล้ชิดและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนจีนและไทย
“การเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนครั้งแรกของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีได้เติมเต็มช่องว่างทางประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-ไทย และเป็นหมุดหมายที่มีความสำคัญยิ่งยวด การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ได้สานต่อมิตรภาพอันดีงามระหว่างจีนและไทย เสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง ส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน กระชับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และทำให้แนวคิด “จีน ไทยครอบครัวเดียวกัน” ฝังรากลึกในจิตใจประชาชนมากยิ่งขึ้น การส่งเสริมการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน และสร้างรากฐานที่มั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับความสัมพันธ์จีน-ไทยในอีก 50 ปีข้างหน้า สื่อมวลชนไทยและผมเชื่อว่าอนาคตของความสัมพันธ์จีน-ไทยจะยิ่งสดใสยิ่งขึ้น”นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยกล่าวย้ำ








