วธ. จัดงานแถลงข่าวการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘ ร่วมสืบสานภาษาไทย ภาษาของชาติ ปลูกปัญญาด้านภาษาอย่างยั่งยืน

1

วันพุธที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เครือข่ายทางวัฒนธรรม สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน

นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน ควรใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพราะไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงอัตลักษณ์ของชาติไทยที่ถูกที่ควรแล้ว ยังสะท้อนถึงความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ให้ความสำคัญกับภาษาไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันภาษาไทยแห่งชาติได้ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเห็นคุณค่าและร่วมกันสืบสานการใช้ภาษาไทยอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน

นางสาวพลอย ธนิกุล กล่าวต่อว่า ปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ ในวันอังคารที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศ ไทย โดยภายในงานจะมีการมอบเข็มและโล่เชิดชูเกียรติแก่ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นในหลากหลายสาขา การมอบรางวัลเพชรในเพลง การมอบรางวัลการประกวดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ การมอบเกียรติบัตรผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยที่ส่งเสริมการใช้ภาษาไทย ตลอดจนการจัดแสดงนิทรรศการ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ก่อให้เกิดการอนุรักษ์และใช้ภาษาไทยอย่างภาคภูมิใจต่อไปในอนาคต

ด้านนางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวเสริมว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้ดำเนินการคัดเลือกบุคคลและองค์กรที่มีบทบาทโดดเด่นด้านภาษาไทยอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลและองค์กรเพื่อรับเข็มและโล่เชิดชูเกียรติทางด้านภาษาไทย แบ่งเป็น ๔ ประเภท จำนวน ๑๖ รางวัล ดังนี้

๑.​ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย จำนวน ๑ ราย ได้แก่ รองศาสตราจารย์จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ
๒.​ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น จำนวน ๗ ราย ได้แก่ (๑) นายกิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน (๒) นายเผด็จ บุญหนุน (๓) รองศาสตราจารย์วิภาส โพธิแพทย์ (๔) นายสมพล เข็มกำเหนิด (๕) นายเอกรัตน์ จิตรมั่นเพียร (๖) นายอนุสรณ์ ติปยานนท์ และ (๗) รองศาสตราจารย์อรชุมา ยุทธวงศ์
๓.​ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น จำนวน ๖ ราย ได้แก่ (๑) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประภาศ ปานเจี้ยง (๒) ผู้ช่วยศาสตราจารย์พวงผกา ธรรมธิ (๓) นายยุทธพงศ์ มาตย์วิเศษ (๔) นายวิเชียร รัตนบุญโน (๕) นางสำรวม ดีสม และ (๖) นายอรุณศิลป์ ดวงมูล
๔.​ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย จำนวน ๑ ราย และ ๑ องค์กร ดังนี้ (๑) ประเภทบุคคล ได้แก่ นางสุรีย์ พันเจริญ และ (๒) ประเภทองค์กร ได้แก่ สมาคมกวีร่วมสมัย

นอกจากนี้ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมศิลปากรในฐานะหน่วยงานหลักด้านมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลากว่า ๒ ทศวรรษ โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๘ กรมศิลปากรได้ดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ ๓ กิจกรรม ดังนี้

๑. การประกวดเพลง “เพชรในเพลง” เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘ จัดขึ้นเพื่อยกย่องบุคคลในวงการเพลงที่มีผลงานดีเด่นด้านภาษาไทย ได้แก่ นักประพันธ์เพลงที่มีความสามารถผสมผสานความรู้ทางภาษา วรรณศิลป์ คีตศิลป์ และจินตนาการได้อย่างเหมาะสม และนักร้องที่ขับร้องเพลงได้ชัดเจนและถูกต้องตามหลักภาษาไทย มีศิลปะการใช้เสียง และถ่ายทอดจังหวะอารมณ์ในการขับร้องได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังเชิดชูเกียรติบุคคล องค์กร หรือโครงการที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมภาษาไทยและมีคุณูปการต่อวงการเพลง โดยผลการประกวดเพลง “เพชรในเพลง” เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘

มีทั้งสิ้น ๒๐ รางวัล ได้แก่
รางวัลการประพันธ์เพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน ๖ รางวัล
​๑.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ ​นายศุภชัย เจียรวนนท์ จากเพลง​กตัญญู
​๒.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ ​นายกฤตศิลป์ ฉลองขวัญ จากเพลง​ฟ้าหลังฝน
​๓.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ ​นายสลา คุณวุฒิ จากเพลง​ผู้หญิงหัวใจอีสาน
​๔.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ ​นายพีรพัฒน์ คงเพ็ชร จากเพลง​ไอดินกลิ่นหญ้า
​๕.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงเพื่อชีวิต ได้แก่​ นายพยัพ คำพันธุ์
​​จากเพลง​สู้ชีวิต
​๖.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงเพื่อชีวิต ได้แก่​นายสุรศักดิ์ ตันน้อย (กฤช เกรียงไกร) และ นายประเสริฐ พงษ์ธนานิกร (ราชันย์ วังทอง) จากเพลง​ชีวิต คือ อนัตตา

รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน ๑๒ รางวัล
​๑.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ ​นายทชภณ พลกองเส็ง (พลพล พลกองเส็ง) จากเพลง​อยากให้รู้ว่าห่วงใย
​๒.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ ​นายรัชเมศฐ์ สุวโชคพิบูลย์ (เล็ก รัชเมศฐ์) จากเพลง​ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว
​๓.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ ​นางสาวสรวีย์ ธนพูนหิรัญ (ผิงผิง) จากเพลง​ฟ้าหลังฝน
​๔.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ ​นางสาวกวิสรา คงบุญศิริคุณ (กอกี้ กวิสรา)
​​จากเพลง​Life of อีหล่า
​๕.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ ​นายอนันต์ อาศัยไพรพนา (นัน อนันต์) จากเพลง​จีบเธอได้ไหม
​๖.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ ​นายกิตติคุน บุญค้ำจุน (มนต์แคน แก่นคูน) จากเพลง​แฟนบ่ว่าบ้อ
​๗.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ ​นางสาวสุทธิยา รอดภัย (ใบเฟิร์น สุทธิยา) จากเพลง​เสียงหวานจากหลานย่าโม
​๘.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ ​นางสาวกาญจนา มาศิริ จากเพลง​แฟนเก่าที่เรายังรัก
​๙.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตชาย ได้แก่ ​นายวรพล นวลผกา (น๊อตตี้ freedom) จากเพลง​สู้ชีวิต
​๑๐.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตชาย ได้แก่ ​นายอิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี (จ๋าย ไททศมิตร) จากเพลง​แอบเก็บความในใจไว้ภายในแว่นเรย์แบนสีดำ
​๑๑.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตหญิง ได้แก่ ​นางสาวชนาภรณ์ ทวีชาติ (แพร ชนา) จากเพลง​คลื่น
​๑๒.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตหญิง ได้แก่ ​นางสาวชฎาพร เถาบุญ (บักฟ้า ชฎาพร) จากเพลง​พรหนึ่งข้อ

รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษ จำนวน ๒ รางวัล
​๑.​รางวัลเชิดชูเกียรติ นัจจกรผู้สร้างสรรค์บทเพลงและบทละครเวที ได้แก่​ นางดารกา วงศ์ศิริ
​๒.​รางวัลเชิดชูเกียรติ ผู้มีคุณูปการต่อวงการเพลงและดนตรี ได้แก่​ นายอานันท์ นาคคง

๒.​การจัดพิมพ์หนังสือหายาก โดยกรมศิลปากรได้จัดพิมพ์หนังสือหายากเรื่อง “จินดามณี ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ” ซึ่งเป็นแบบเรียนภาษาไทยในสมัยอยุธยา สอนเรื่องอักขรวิธี การประสมอักษร และการผันวรรณยุกต์อย่างละเอียด มีคุณค่าต่อการศึกษาพัฒนาการด้านอักษรศาสตร์และการเรียนการสอนภาษาไทยในอดีต

๓.​การสัมมนาทางวิชาการด้านภาษาและวรรณคดีไทย ในหัวข้อ “วรรณคดีบทละครไทย” ที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ด้านภาษาและวรรณคดีไทยให้เข้าถึงประชาชนอย่างกว้างขวาง เพื่อธำรงไว้ซึ่งมรดก ทางวัฒนธรรมของชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๓๐ น. โดยมีการถ่ายทอดสดให้ผู้สนใจรับชมได้ทางเฟสบุ๊กกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม

สุดท้ายนี้ นางสาวพลอย ธนิกุล กล่าวเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘ ในวันอังคารที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๐ น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง ร่วมเรียนรู้ และร่วมสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง สร้างสรรค์ และภาคภูมิใจต่อชาติอย่างแท้จริง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ([http://www.culture.go.th)]www.culture.go.th) หรือ Facebook Fanpage : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม